ในวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา Microsoft เปิดตัว Windows 10 Pro for Workstations อย่างเป็นทางการ ตามที่คาดการณ์ไว้ว่า Windows 10 Pro สำหรับ Workstations ได้รับการออกแบบมาสำหรับฮาร์ดแวร์ Server ที่มีขีดความสามารถสูง และ Power User เป็นหลัก  Windows 10 Pro สำหรับ Workstations จะรองรับเครื่องที่มีโปรเซสเซอร์และ RAM จำนวนมาก
    บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft กำลังทำการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 4 ประการ สำหรับ Windows 10 Pro สำหรับ Workstations เพื่อสนับสนุนฮาร์ดแวร์ระดับ high-end โดยระบบ Resilient File System (ReFS) ซึ่งจะให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นกับข้อมูลที่ได้รับความเสียหายและการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการจัดการปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ และการแก้ไขอัตโนมัติ นอกจากนี้ Windows 10 Pro สำหรับ Workstations จะสนับสนุนการทำงานของหน่วยความจำถาวร (NVDIMM-N) ซึ่งหมายความว่าความเร็วในการอ่าน และเขียนจะเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ไฟล์จะยังคงอยู่ที่นั่นแม้ว่า Workstation จะปิดอยู่ก็ตาม
    Microsoft ยังเพิ่มการสนับสนุนไฟล์ได้เร็วขึ้นใน Windows 10 Pro for Workstations โดยเพิ่มการใช้คุณสมบัติของ SMB Direct และยังสนับสนุนความสามารถในการเข้าถึงหน่วยความจำระยะไกล (Remote Access Memory Access - RDMA) เพื่อให้ Network adapter สามารถทำงานได้ในเวลา  latency ต่ำโดยไม่ต้องใช้งาน CPU มากนัก และจะเพิ่ม throughput สำหรับการถ่ายโอนไฟล์ผ่านเครือข่ายความเร็วสูง
อย่างสุดท้าย Microsoft กำลังขยายการสนับสนุนฮาร์ดแวร์ใน Windows 10 Pro for Workstations ที่มีศักยภาพสูงอยู่ในระดับ Server ซึ่งจะมีการรองรับ Intel Xeon หรือ AMD Opteron ที่มีอยู่ 4 physical CPUs  และ RAM ถึง 6TB  โดย Windows 10 Pro ตัวเก่าจะจำกัดอยู่แค่ 2 CPUs และมี RAM เพียง 2TB ดังนั้น Windows รุ่นนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การกำหนดค่าประสิทธิภาพสูงอย่างชัดเจน Windows 10 Pro สำหรับ Workstations จะมีวางจำหน่ายควบคู่ไปกับการอัพเดต Fall Creators ของ Windows 10 ในปลายปีนี้

อ้างอิง : blogs.windows.com